แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคหวัด ต่างพากันยกนิ้วให้กับคำแนะนำของคนรุ่นย่ารุ่นยายที่สอนเอาไว้ว่า ให้ดื่มน้ำอุ่นจะได้หายเร็ว
นักวิจัยของศูนย์โรคหวัดธรรมดา มหาวิทยาลัยคาร์ดิฟฟ์ สหภาพแอฟริกาใต้ได้พบในการศึกษาว่า เครื่องดื่มที่เป็นน้ำผลไม้ที่ไม่มีแอลกอฮอล์อุ่นสัก 1 เหยือกจะช่วยบรรเทาอาการไอและสำลักลงได้ ผู้อำนวยการศูนย์ ศาสตราจารย์รอน เอกเคิล จึงได้ฉวยโอกาสแนะนำให้ผู้ป่วยโรคหวัดธรรมดา หรือไข้หวัดใหญ่ให้ดื่มน้ำผลไม้อุ่นๆ จะได้บรรเทาอาการลงได้ “มันน่าแปลกอยู่เหมือนกัน ที่เพิ่งมีการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ของผลดีในการดื่มเครื่องดื่มร้อน แก้หวัดขึ้นเป็นครั้งแรก” และเสริมว่าข้อดีของการดื่มน้ำผลไม้ นอกจากช่วยต่อสู้โรคภัยแล้ว มันยังถูกทั้งปลอดภัยและได้ผลดีอีกด้วย
รายงานผลการศึกษาเปิดเผยอยู่ในวารสารทางวิชาการ “นาสิกวิทยา” ของอังกฤษ กล่าวว่า ได้ทดลองให้อาสาสมัครที่เป็นหวัด 30 คนดื่มน้ำแอปเปิ้ลและแบ็คเคอแรนต์ พบว่า มันช่วยบรรเทาอาการน้ำมูกไหล ไอจาม เจ็บคอ หนาวสั่นและเมื่อยล้า ลงได้ทันทีและคงอยู่นาน
Goo
Can't find topic? find it here
Sunday, December 14, 2008
Thursday, November 20, 2008
What is detox

ย่อมาจาก คำว่า Detoxification หมายถึง กระบวนการในการล้างสารพิษ (Toxin) ออกจากร่างกายด้วยวิธีการต่างๆ เช่น การออกกำลังกาย การนั่งสมาธิ การสวนทวาร การกินเจ สารพิษ(Toxin) คือ อะไร สารพิษ (Toxin) คือ สารเคมีที่เกิดจากความบกพร่องของกระบวนการล้างพิษในร่างกาย โดยปกติร่างกายของคนเราสามารถล้างพิษในตัวได้อยู่แล้ว เช่น การล้างพิษจากเลือดด้วยตับ การกรองน้ำเสียด้วยไต การกำจัดเชื้อโรคของเม็ดเลือดขาว การกำจัดเศษอาหารในลำไส้ใหญ่ แต่ถ้า เกิดกรณีที่ ได้รับสารพิษมากเกินไป หรือ กระบวนการล้างสารพิษมีประสิทธิภาพลดลงเนื่องจากอายุมากขึ้น จะส่งผลให้ร่างกายเราสะสมสารพิษไว้มากขึ้นเรื่อย ๆ สารพิษ(Toxin) มีโทษอย่างไรต่อร่างกาย สารพิษ เป็นสารที่ก่อโทษต่อร่างกายไม่ว่าจะมีพิษมากหรือน้อยล้วนก่อให้เกิดโทษต่อร่างกาย อาจส่งผลตตั้งแต่ปัญหาเล็ก ๆ เช่น ผดผื่น คัน จนกระทั่งโรคมะเร็งแน่นอนว่าร่างกายต้องมีสารพิษอยู่แล้วแต่ถ้ามีมากเกินไปจนร่างกายไม่สามารถกำจัดได้ จะส่งผลเสียต่อร่างกายสามารถสังเกตุได้จาก-เหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย-หนักเนื้อหนักตัว หน้ามืดตาลาย-เซื่องซึม นอนไม่หลับ-ท้องผูกบ่อย ท้องร่วง-หมดเรี่ยวหมดแรง หมดสภาพ-สมาธิสั้นลง มึนหัว ตามัว -หงุดหงิดง่าย ความจำไม่ดี
เรื่องจริง 90% ของโรคเกิดจากการสะสมพิษในลำไส้ใหญ่นักวิทยาศาสตร์ค้นพบว่า การสะสมพิษ เช่น อุจจาระตกค้าง ตะกรัน(Chronic dunk) ที่ลำไส้ใหญ่ หรือ อาการท้องผูก เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ร่างกายเราอ่อนแอและเกิดโรคต่าง ๆ ตามมาได้ง่ายเนื่องจากลำไส้เป็นอวัยที่ร่างกายเราไม่สามารถมองเห็นได้ จึงถูกละเลยในการดูแล โรคที่เกิดจากการสะสมพิษในลำไส้ใหญ่ เช่น เบาหวาน ความดัน โคเรสเตอรอล เส้นเลือดในสมองแตก หลอดเลือดตีบตัน หัวใจ หลอดเลือดในหัวใจตีบ ไมเกรน ปวดหัว อัมพาต มะเร็ง ผิวหนัง ภูมิแพ้ ภูมิเพี้ยน (SLE) เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ สิวเสี้ยน สิวอักเสบ ฝ้า กระ ผิวหยาบกร้าน กลิ่นกาย กลิ่นปาก ปวดหลัง ปวดคอ ปวดข้อ ท้องอืด ท้องเฟ้อ โรคกระเพาะ ลำไส้อักเสบ ริดสีดวง พุงโต น้ำหนักเกิน ฯลฯท้องผูกปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร ที่คนในยุคแข่งขันสูง เป็นกันบ่อยที่สุด คือ อาการท้องผูก อันเป็นตัวบ่งชี้ว่า อาหารที่บริโภคนั้นมีเส้นใยอาหารที่ต่ำมาก ธัญพืชที่ไม่ผ่านการขัดสี ทานอาหารด้วยความเร่งรีบ ทานเนื้อสัตว์มากเกินไปการ Detox ลำไส้การล้างลำไส้มีวิธีการที่คนในปัจจุบันนิยมใช้คือ การสวนทวารล้างลำไส้ เป็นวิธีการที่หลายคนรู้จักมีทำตามโรคพยาบาลต่าง ๆ ใช้บริการครั้งละ 700 - 1000 บาท ใช้กรดมะนาว หรือ กรดกาแฟ ในการสวนทวาร เป็นวิธีการแรกที่ทางการแพทย์ค้นพบในการล้างพิษ เป็นวิธีการที่ดีในการล้างพิษ วิธีหนึ่ง
สนใจจะมีใว้ในครอบครอง เชิญติดต่อ www.tarad.com/huoto
Saturday, October 18, 2008
การมีพุง อาจมิใช่เพราะไขมัน+too fat isn't only the cause by eating
สาเหตุของการมีพุง อาจมิใช่เพราะไขมัน
สาเหตุของการมีพุง อาจมิใช่เพราะไขมัน
คย เป็นบ้างไหมว่า แม้เราจะลดน้ำหนักสักแค่ไหน หน้าท้องของเราก็ยังป่องไม่เรียบตึงเช้งกะเด๊ะซะที คุณควรรู้ไว้ว่า สาเหตุของพุงป่องไม่ใช่จากการรับประท านเพียงอย่างเดียว และคนพุงป่องก็ไม่ได้แปลว่าอ้วนด้วย แต่อาจเป็นเพียงอาการบวมน้ำเท่านั้น ลองเรียนรู้สักนิดเพื่อหาทางกำจัดพุงป่องๆ แบบถาวรกันดีกว่า 1. การแพ้อาหาร บางครั้งอาการท้องบวมอาจเกิดจากอาการระคายเคืองหรือก ารติดเชื้อของระบบย่อยอาหารในช่องท้อง หรืออาจรวมถึงการรับประทานยาบางชนิดที่ทำให้บวมน้ำแล ะยังรวมไปถึงการมีรอบเดือนด้วย แต่ถ้าคุณรู้สึกว่าหน้าท้องของคุณบวมขึ้นผิดปกติหลัง ทานอาหารบางชนิด ให้สันนิษฐานได้ว่าคุณน่าจะมีอาการแพ้อาหารเข้าให้แล ้ว จากสถิติพบว่าอาหารจำพวกแป้งและนมมีโอกาสทำให้เกิดอา การแพ้และบวมมากที่สุด 2.อาหารลดน้ำหนัก คนที่ชอบหวังพึ่งอาหารลดน้ำหนักจำพวกโลว์-แฟ้ต หรือแฟ้ต-ฟรีมักจะมีปัญหาพุงป่อง เนื่องจากคุณจะคิดว่ามันเป็นอาหารแคลอรี่ต่ำ จึงสามารถกินมากกว่าปกติ อาหารพวกนี้อาจมีพลังงานน้อยกว่าปกติ แต่มันก็ไม่ได้น้อยขนาดนั้น ทางที่ดีหันมารับประทานผักผลไม้ให้มากขึ้นจะดีกว่า รวมทั้งรับประทานอาหารที่มีเอนไซม์ช่วยย่อย อาทิ น้ำมะนาว น้ำส้มสายชูสกัดจากแอ๊ปเปิ้ล หรือผักสดต่างๆ 3.กินช้าๆ แต่บ่อยๆ เลิกนิสัยรีบกินรีบไปซะที ค่อยๆ เคี้ยวอาหารช้า ๆ เพื่อให้ประสาทรับรู้ของเราค่อยๆ รู้สึกอิ่ม และในแต่ละมื้ออย่ากินให้เยอะจนอิ่มแน่นท้อง คุณควรแบ่งมื้ออาหารออกเป็นมื้อย่อย ๆ แต่อย่ากินขนมจุบจิบจำพวกขนมนมเนยต่าง ๆ เลือกกินผลไม้หรือธัญพืช เมื่อหิวระหว่างมื้อจะดีกว่า 4.ขจัดสารพิษ แอลกอฮอล์ คาเฟอีน และนิโคตินในบุหรี่มีผลร้ายต่อระบบเผาผลาญอาหารของร่ างกาย ส่งผลให้ร่างกายบวมน้ำและยังก่อให้เกิดเซลลูไลท์อีกด ้วย ดังนั้นเมื่อรู้เหตุดังนี้แล้วก็แค่ลดละเลิกการดื่มเ ครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และคาเฟอีนต่าง ๆ และเลิกสูบบุหรี่ไปซะด้วยเลยในเวลาเดียวกัน 5.หัดกินสักนิด ในกระเพาะของเราจะมีแบคทีเรียอาศัยอยู่เพื่อช่วยในกา รย่อยอาหาร แต่บางครั้งแบคทีเรียเหล่านี้ก็อาจถูกกำจัดไปจากสภาว ะต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการเจ็บป่วยหรือการรับประทานอาหารบางชนิ ด แนะนำให้คุณรับประทานโยเกิร์ตรสธรรมชาติเป็นประจำเพื ่อปรับสมดุลแบคทีเรียกลุ่มที่เป็นประโยชน์ จะช่วยทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้นและช่วยให้หน ้าท้องของคุณบวมน้อยลงด้วย 6.ดื่มน้ำให้มาก น้ำเป็นเสมือนขุมทรัพย์แห่งความงามจริงๆ รวมไปถึงอาการบวมน้ำนี้ด้วยคุณควรดื่มน้ำให้ได้อย่าง ต่ำ 8 แก้วต่อวัน แต่วิธีการดื่มนั้นอย่าดื่มหมดแก้วในคราวเดียวควรจิบ น้ำบ่อยๆ เรื่อยๆ เพราะการที่คุณดื่มน้ำแก้วใหญ่ในคราวเดียว จะทำให้กระเพาะปัสสาวะของคุณขยายใหญ่ ถ้าจะให้ดีลองเลือกดื่มขาสมุนไพร อาทิ ชาเป็ปเปอร์มินต์ หรือชาคาโมไมล์แทนน้ำเปล่า โดยเฉพาะการดื่มในช่วงหลังอาหาร จะช่วยให้อาหารที่คุณรับประทานเข้าไป ย่อยได้ดีขึ้นด้วย 7. บริหารกล้ามเนื้อหัวใจ ผู้หญิงหลายคนเชื่อว่าการซิตอัพทุกวันจะช่วยให้หน้าท ้องแบนเรียบแต่จริง ๆ แล้วไม่ใช่เลย แม้ว่าการซิตอัพจะช่วยสร้างกล้ามท้อง แต่ถ้าร่างกายของคุณนั้นยังปกคลุมด้วยชั้นไขมันแล้วล ่ะก็ หน้าท้องเรียบตึงก็จะไม่มีวันโผล่มาให้เห็นหรอก ดังนั้นจึงจำเป็นที่คุณจะต้องออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ เป็นประจำอย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน อย่างต่ำ 3 วันต่อสัปดาห์เพื่อให้ร่างกายได้เผาผลาญไขมันออกไป ผนวกกับการซิตอัพ คราวนี้แหละสวยตึงแน่นอน 8. หายใจลึกๆ เมื่อคุณหายใจเข้าออกแบบลึกๆ จะช่วยให้ร่างกายจะคลายความตึงเครียดออกมา รวมทั้งยังช่วยในการเติมอ็อกชิเจนและพลังชีวิตให้ร่า งกายด้วย ทุกครั้งที่คุณหายใจให้พยายามหายใจให้ลึกเข้าไปยังท้ อง อย่าหยุดเพียงแค่เก็บลมไว้ในช่องอกการหายใจเข้าออกจา กท้องเป็นนิสัยจะช่วยกระชับให้กล้ามเนื้อหน้าท้องแข็ งแรงมากยิ่งขึ้น 9. นวดกระชับหน้าท้อง ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าการนวด ช่วยได้ จริงๆ เนื่องจากการนวดท้องนั้น ช่วยไล่ลมที่กักเก็บไว้ในช่องท้องได้ และช่วยทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้นด้วย ณ วิธีการนวดก็ไม่ยาก เพียงวางฝ่ามือลงบนท้องแล้วนวดวนตามเข็มนาฬิกา ถ้าอยากเห็นผลลัพธ์เร็วขึ้น คุณอาจใช้ครีมจำพวกกระชับกล้ามเนื้อหน้าท้องร่วมด้วย ก็ได้
สาเหตุของการมีพุง อาจมิใช่เพราะไขมัน
คย เป็นบ้างไหมว่า แม้เราจะลดน้ำหนักสักแค่ไหน หน้าท้องของเราก็ยังป่องไม่เรียบตึงเช้งกะเด๊ะซะที คุณควรรู้ไว้ว่า สาเหตุของพุงป่องไม่ใช่จากการรับประท านเพียงอย่างเดียว และคนพุงป่องก็ไม่ได้แปลว่าอ้วนด้วย แต่อาจเป็นเพียงอาการบวมน้ำเท่านั้น ลองเรียนรู้สักนิดเพื่อหาทางกำจัดพุงป่องๆ แบบถาวรกันดีกว่า 1. การแพ้อาหาร บางครั้งอาการท้องบวมอาจเกิดจากอาการระคายเคืองหรือก ารติดเชื้อของระบบย่อยอาหารในช่องท้อง หรืออาจรวมถึงการรับประทานยาบางชนิดที่ทำให้บวมน้ำแล ะยังรวมไปถึงการมีรอบเดือนด้วย แต่ถ้าคุณรู้สึกว่าหน้าท้องของคุณบวมขึ้นผิดปกติหลัง ทานอาหารบางชนิด ให้สันนิษฐานได้ว่าคุณน่าจะมีอาการแพ้อาหารเข้าให้แล ้ว จากสถิติพบว่าอาหารจำพวกแป้งและนมมีโอกาสทำให้เกิดอา การแพ้และบวมมากที่สุด 2.อาหารลดน้ำหนัก คนที่ชอบหวังพึ่งอาหารลดน้ำหนักจำพวกโลว์-แฟ้ต หรือแฟ้ต-ฟรีมักจะมีปัญหาพุงป่อง เนื่องจากคุณจะคิดว่ามันเป็นอาหารแคลอรี่ต่ำ จึงสามารถกินมากกว่าปกติ อาหารพวกนี้อาจมีพลังงานน้อยกว่าปกติ แต่มันก็ไม่ได้น้อยขนาดนั้น ทางที่ดีหันมารับประทานผักผลไม้ให้มากขึ้นจะดีกว่า รวมทั้งรับประทานอาหารที่มีเอนไซม์ช่วยย่อย อาทิ น้ำมะนาว น้ำส้มสายชูสกัดจากแอ๊ปเปิ้ล หรือผักสดต่างๆ 3.กินช้าๆ แต่บ่อยๆ เลิกนิสัยรีบกินรีบไปซะที ค่อยๆ เคี้ยวอาหารช้า ๆ เพื่อให้ประสาทรับรู้ของเราค่อยๆ รู้สึกอิ่ม และในแต่ละมื้ออย่ากินให้เยอะจนอิ่มแน่นท้อง คุณควรแบ่งมื้ออาหารออกเป็นมื้อย่อย ๆ แต่อย่ากินขนมจุบจิบจำพวกขนมนมเนยต่าง ๆ เลือกกินผลไม้หรือธัญพืช เมื่อหิวระหว่างมื้อจะดีกว่า 4.ขจัดสารพิษ แอลกอฮอล์ คาเฟอีน และนิโคตินในบุหรี่มีผลร้ายต่อระบบเผาผลาญอาหารของร่ างกาย ส่งผลให้ร่างกายบวมน้ำและยังก่อให้เกิดเซลลูไลท์อีกด ้วย ดังนั้นเมื่อรู้เหตุดังนี้แล้วก็แค่ลดละเลิกการดื่มเ ครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และคาเฟอีนต่าง ๆ และเลิกสูบบุหรี่ไปซะด้วยเลยในเวลาเดียวกัน 5.หัดกินสักนิด ในกระเพาะของเราจะมีแบคทีเรียอาศัยอยู่เพื่อช่วยในกา รย่อยอาหาร แต่บางครั้งแบคทีเรียเหล่านี้ก็อาจถูกกำจัดไปจากสภาว ะต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการเจ็บป่วยหรือการรับประทานอาหารบางชนิ ด แนะนำให้คุณรับประทานโยเกิร์ตรสธรรมชาติเป็นประจำเพื ่อปรับสมดุลแบคทีเรียกลุ่มที่เป็นประโยชน์ จะช่วยทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้นและช่วยให้หน ้าท้องของคุณบวมน้อยลงด้วย 6.ดื่มน้ำให้มาก น้ำเป็นเสมือนขุมทรัพย์แห่งความงามจริงๆ รวมไปถึงอาการบวมน้ำนี้ด้วยคุณควรดื่มน้ำให้ได้อย่าง ต่ำ 8 แก้วต่อวัน แต่วิธีการดื่มนั้นอย่าดื่มหมดแก้วในคราวเดียวควรจิบ น้ำบ่อยๆ เรื่อยๆ เพราะการที่คุณดื่มน้ำแก้วใหญ่ในคราวเดียว จะทำให้กระเพาะปัสสาวะของคุณขยายใหญ่ ถ้าจะให้ดีลองเลือกดื่มขาสมุนไพร อาทิ ชาเป็ปเปอร์มินต์ หรือชาคาโมไมล์แทนน้ำเปล่า โดยเฉพาะการดื่มในช่วงหลังอาหาร จะช่วยให้อาหารที่คุณรับประทานเข้าไป ย่อยได้ดีขึ้นด้วย 7. บริหารกล้ามเนื้อหัวใจ ผู้หญิงหลายคนเชื่อว่าการซิตอัพทุกวันจะช่วยให้หน้าท ้องแบนเรียบแต่จริง ๆ แล้วไม่ใช่เลย แม้ว่าการซิตอัพจะช่วยสร้างกล้ามท้อง แต่ถ้าร่างกายของคุณนั้นยังปกคลุมด้วยชั้นไขมันแล้วล ่ะก็ หน้าท้องเรียบตึงก็จะไม่มีวันโผล่มาให้เห็นหรอก ดังนั้นจึงจำเป็นที่คุณจะต้องออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ เป็นประจำอย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน อย่างต่ำ 3 วันต่อสัปดาห์เพื่อให้ร่างกายได้เผาผลาญไขมันออกไป ผนวกกับการซิตอัพ คราวนี้แหละสวยตึงแน่นอน 8. หายใจลึกๆ เมื่อคุณหายใจเข้าออกแบบลึกๆ จะช่วยให้ร่างกายจะคลายความตึงเครียดออกมา รวมทั้งยังช่วยในการเติมอ็อกชิเจนและพลังชีวิตให้ร่า งกายด้วย ทุกครั้งที่คุณหายใจให้พยายามหายใจให้ลึกเข้าไปยังท้ อง อย่าหยุดเพียงแค่เก็บลมไว้ในช่องอกการหายใจเข้าออกจา กท้องเป็นนิสัยจะช่วยกระชับให้กล้ามเนื้อหน้าท้องแข็ งแรงมากยิ่งขึ้น 9. นวดกระชับหน้าท้อง ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าการนวด ช่วยได้ จริงๆ เนื่องจากการนวดท้องนั้น ช่วยไล่ลมที่กักเก็บไว้ในช่องท้องได้ และช่วยทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้นด้วย ณ วิธีการนวดก็ไม่ยาก เพียงวางฝ่ามือลงบนท้องแล้วนวดวนตามเข็มนาฬิกา ถ้าอยากเห็นผลลัพธ์เร็วขึ้น คุณอาจใช้ครีมจำพวกกระชับกล้ามเนื้อหน้าท้องร่วมด้วย ก็ได้
Thursday, October 9, 2008
what food makes you headche
~~~อาหารอะไร ทำให้ปวดหัว ~~~
อาการ ปวดหัวของบางคนจะกำเริบทันทีถ้าทานอาหารที่มีสารไทรามีน (Tyramines) และ นิไทรต์ (Nitrite) เข้าไป เพราะร่างกายของคนๆ นั้นมีความไวต่อสาร 2 ตัวนี้ พอได้รับปุ๊บก็จะทำให้ระบบประสาทและหลอดเลือดหดตัวทันที อาหารที่มีสาร 2 ชนิดนี้อยู่มากก็คือ
1. ช็อกโกแลต โดยเฉพาะคนที่เป็นไมเกรน ทานเมื่อไรเป็นได้เรื่องทุกที ยกเว้นช็อกโกแลตขาวซึ่งมีนมเป็นส่วนประกอบหลักมากกว่า
2. กุนเชียงและเนื้อแดดเดียว เพราะสีแดงของอาหาร 2 ชนิดนี้ มาจากการเติมดินประสิวลงไป โดยไม่รู้ว่าดินประสิวนี่ละมีสาร Nitrite ระดับตัวแม่เลย
3. ลูกชิ้นเด้ง ไม่ ใช่ทุกร้าน แต่ก็เป็นส่วนใหญ่ที่คนทำลูกชิ้นจะใส่สารบอแร็กซ์ลงไปด้วยเพื่อช่วยให้ลูก ชิ้นเด้งดึ๋งได้ดีขึ้น ทั้งๆ ที่บอแร็กซ์เป็นสารก่อมะเร็ง กระทรวงสาธารณสุขก็เตือนอยู่โครมๆ ว่าไม่ให้ใส่
4. สารให้ความหวานแทนน้ำตาล ผลการวิจัยว่าคนที่เป็นไมเกรนจะปวดหัวเมื่อกินสารชนิดนี้
5. ไวน์แดง ในไวน์ก็มีไทรามีน กับนิไทรต์ ไม่น้อยนหน้าใครเหมือนกัน ฉะนั้นไม่ดื่มได้ล่ะดี นอกจากนี้สำหรับ
คนที่ปวดหัวเพราะไมเกรน ยังต้องเลี่ยงอาหารต่อไปนี้ด้วย -
ช็อกโกแลต เนย ถั่ว เนยถั่ว ฮอทดอก
- เนื้อย่าง เนื้อที่ใส่เครื่องเทศมากๆ อาหารมันๆ ซีอิ๊ว ผงชูรส เนื้อวัว
- น้ำอัดลม เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน - ส้ม กล้วย ลูกพรุน สับปะรด
- ยาแก้โรคความดัน ยารักษากระเพาะ Cimetidine ยาคุมกำเนิด
Monday, October 6, 2008
20 ไอเดียง่ายๆ ช่วยคุณเผาผลาญแคลอรี |
|
Good food to take Black bean
บริโภคถั่วดำ ดีต่อหัวใจ |
|
Monday, September 29, 2008
Subscribe to:
Posts (Atom)